Ferrari 360 Modena

ตำนานม้าลำพอง!!! Ferrari 360 Modena ซูเปอร์คาร์ในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่การครอบครอง!!! หายาก แต่หาได้ เพราะนี่คือ Target Car Center - Imported Cars

‍

Ferrari 360 Modena นั้นเปิดตัวในปี 1999 และเป็นซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลางที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับ Ferrari โดยเป็นซูเปอร์คาร์ที่พัฒนาต่อจาก F335 แต่ด้วยรูปทรงที่ไม่ได้เหลือเค้าโครงเดิมเลย ทำให้ 360 Modena โดดเด่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ล้ำยุคอย่างมากในขณะนั้น เส้นสายที่โค้งมนและช่องรับอากาศที่กันชนหน้าแบบแยกซ้าย-ขวา ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ส่งต่อมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน

‍

หนึ่งในไฮไลท์ที่โดดเด่นในการออกแบบของ 360 Modena คือด้านหลังห้องโดยสาร เพราะแทนที่จะเป็นส่วนค้ำยันที่พาดผ่านฝาครอบเครื่องยนต์แบบแบนราบและมีช่องระบายอากาศ กลับเป็นกระจกที่ทอดยาวลงมาถึงท้ายรถ และเผยให้เห็นฝาครอบเครื่องยนต์สีแดงสดของเครื่องยนต์ V8 ที่ติดตั้งตรงกลางได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่ายังคงเอกลักษณ์ของเฟอร์รารีที่คุ้นเคย รวมถึงยังมีช่องระบายอากาศที่ด้านข้าง ที่ชวนให้นึกถึงการออกแบบใน Dino 206/246 นับเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ Ferrari ในยุคนั้นและสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่ในด้านอากาศพลศาสตร์เท่านั้น เพราะ 360 Modena ได้สร้างแรงกดมากกว่า 355 ถึง 4 เท่า

‍

จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งอย่างของ 360 Modena คือโครงสร้างหลักและแผงตัวถังภายนอกที่ทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของ Ferrari ตัวถังใช้การผสมผสานระหว่างการเชื่อมส่วนที่หนาขึ้นในส่วนที่เน้นความแข็งแกร่งเป็นหลักและการเชื่อมส่วนที่บางลงในส่วนที่เน้นความแข็งแกร่งน้อยกว่า เพื่อลดน้ำหนัก และแม้ว่า 360 Modena จะมีขนาดใหญ่กว่า หรูหรากว่าและกว้างขวางกว่า 355 อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็หนักกว่าเพียง 40 กิโลกรัม

‍

พูดง่ายๆก็คือ 360 Modena คือการสานต่อความสำเร็จของ F355 ที่เคยทำไว้ แต่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยน้ำหนักที่น้อยลง พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มากขึ้น ความสะดวกสบายที่มากขึ้นและสมรรถนะที่เหนือกว่า

‍

เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ให้ลึกลง 360 Modena ถือเป็นวิวัฒนาการของ F355 อย่างมาก ความจุของเครื่องยนต์ V8 แบบ 90 องศา เพิ่มขึ้นจาก 3.5 เป็น 3.6 ลิตร นั่นทำให้จึงถูกเรียกว่า 360 ส่วนคำว่า Modena นั้น มาจากชื่อเมืองที่ Enzo Ferrari ถือกำเนิด 360 Modena

‍

เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.6 ลิตร นี้ ให้กำลัง 400 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 373 นิวตันเมตร ที่ 4750 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ F1 6 จังหวะและเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ซึ่งคันที่เห็นอยู่นี้เป็นรุ่นเกียร์กึ่งอัตโนมัติแบบ F1 6 จังหวะ มอบอัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 295 กม./ชม.

‍

ภายในห้องโดยสารนั้น ถูกออกแบบโดยเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้วยพวงมาลัยท้ายตัด เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่เน้นส่วนรองรับ ซึ่งให้ความสบายในการขับขี่ทางไกล แต่ยังคงไว้ซึ่งความกระชับเมื่อเข้าสนาม และที่ขาดไปไม่ได้คือคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เรียกว่าเป็นออฟชั่นพื้นฐานเลย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังเบาะนั่ง ที่สามารถเก็บไม้กอล์ฟหรือกระเป๋าเดินทางใบเล็กได้ 2 ใบ