McLaren 765LT

McLaren 765LT ที่สุดแห่งซูเปอร์คาร์น้ำหนักเบา เร่ง  0-200 กม./ชม. ใน 7 วินาที จนบางคนถึงกับเรียกว่าเป็นน้องๆไฮเปอร์คาร์!!!!

McLaren 765LT เป็นซูเปอร์คาร์ที่ถูกพัฒนาและออกแบบต่อยอดจาก 720S โดยเน้นที่น้ำหนักที่เบากว่าและทรงพลัง เพื่อให้สมกับเป็นรุ่นเรือธงในตระกูล Longtail ต่อจาก 675LT

765LT มาพร้อมแพ็คเกจแอโรไดนามิกส์รอบคันแบบจัดเต็มที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เริ่มตั้งแต่กันชนหน้าแบบดุดันที่เสริมด้วยครีบด้านข้างและสเกิร์ตข้างที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งเอกลักษณ์ของรุ่นนี้อยู่ที่ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่และสปอยเลอร์หลังที่ยาวกว่ารุ่นปกติ

ไฮไลท์ของรุ่นนี้อยู่ด้านหลัง ที่มีคุณสมบัติเสริมที่ช่วยเพิ่มการระบายความร้อนด้วยการดึงอากาศร้อนออกจากช่องเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Airbrake ที่มอบการตั้งค่าที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มแรงกดที่เพลาหลังมากขึ้นกว่าเดิมถึง 25%

นอกเหนือจากสปอยเลอร์หลังที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว 765LT ยังมีล้ออัลลอยน้ำหนักเบาเป็นพิเศษพร้อมสลักเกลียวไทเทเนียมหุ้มด้วงยาง Pirelli P Zero Trofeo R ขนาด 235/35ZR19 ที่ด้านหน้าและ 305/30ZR20 ที่ด้านหลัง ส่วนระบบเบรกเป็นแบบคาร์บอนเซรามิกพร้อมคาลิปเปอร์ที่ยกมาจาก Senna ก่อนจะปิดท้ายด้วยช่วงล่างที่ได้รับการปรับเซ็ทใหม่เพื่อเน้นการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะ

ท่อไอเสียเป็นสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะ 765LT มีท่อไอเสียไทเทเนียมแบบ 4 ท่อ ซึ่งเบากว่าท่อเหล็กถึง 40% ที่นอกเหนือจากการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยมอบเสียงที่เร้าใจของเครื่องยนต์ V8 อีกด้วย

ภายในห้องโดยสารนั้นตกแต่งด้วยอัลคันทาร่าและคาร์บอนไฟเบอร์ทั่วทั้งห้องโดยสาร เพื่อมอบกลิ่นอายสไตล์รถแข่ง ซึ่งคันที่เห็นนี้ตกแต่งด้วยสีดำสนิทที่ช่วยเพิ่มความสปอร์ตขั้นสุดไปในตัว

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ประกอบไปด้วยลูกสูบอลูมิเนียม ปะเก็น 3 ชั้นที่ยกมาจาก Senna และปั๊มเชื้อเพลิงที่ปรับปรุงใหม่จาก 720S จนได้กำลัง 765 แรงม้าและแรงบิด 800 นิวตันเมตร แต่การอัปเกรดระบบส่งกำลังไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เนื่องจาก 765LT มีระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมกล่องเกียร์ที่ปรับให้เหมาะสมกับการขับขี่ ซึ่งการปรับแต่งเกียร์ช่วยให้ “การเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น 15% เมื่อเทียบกับ 720S และเร็วที่สุดของ McLaren Super Series ในทุกรุ่น

ด้วยมาตรการลดน้ำหนักทั้งหมด ทำให้ 765LT มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น Longtail ทั้งหมด และเบากว่า 720S ถึง 80 กก. จนเหลือน้ำหนักตัวแบบแห้งอยู่ที่ 1,229 กก. หรือเรียกได้ว่าเบาพอๆกับอีโคคาร์ แต่มีพละกำลังเทียบเท่าไฮเปอร์คาร์ และมีอัตราส่งกำลังต่อน้ำหนักที่ 622 แรงม้าต่อตัน

ด้วยที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้ 765LT สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที, 0-200 กม./ชม. ใน 7 วินาที, 0-300 กม./ชม. ใน 18 วินาที และยังสามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์ในเวลาน้อยกว่า 10 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 330 กม./ชม. ทั้งนี้การผลิต McLaren 765LT ถูกจำกัดที่ 765 คันและยุติการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อย

฿ ราคาติดต่อโชว์รูม
ชมรถได้ที่โชว์รูม